แนวดนตรี Hiphop คืออะไรนะ Hiphop what’s up yo!!

บทความนี้ เรามาพูดถึงดนตรี อีก1แขนง ที่ไล่เลี่ย ใกล้เคียง คู่กันมาติดๆ หรือจะเรียกได้ว่าเป็นญาติพี่น้องกับNu-Metal นั่นก็คือ แนวดนตรี “HIPHOP” ที่เรารู้จักกันดีครับ ซึ่งดนตรีแนวนี้
ก็ยังถือว่าเป็นกระเเสหลักของโลก มาจนถึงปัจจุบันเลยนะ แถมยังเป็น pop culture ที่ไม่เคยตกยุคตกสมัย ถ้าจะไล่ความเป็นมาเป็นไปแบบละเอียด มันจะต้องใช้เวลาหลายล้านปีแสงแน่ๆ แต่เอาเป็นว่าเราจะให้อยู่ในโพสเดียว ตามสไตล์เราแบบเก่านะครับบ แต่ขอบอกก่อนครับว่ายาว อ่านให้จบกันนะครับ (ถ้าไม่จบก็เปิดคลิปกันเอานะครับ) โอเค จุดเริ่มต้นของดนตรีแนวนี้ มันเริ่มต้นในช่วงยุค 70’s ครับ
เเรกเริ่มเดิมทีเป็นแนวย่อยที่เกิดขึ้นในไทม์ไลน์ของดนตรีอิเล็กทรอนิคครับ ซึ่งได้อิทธิพลจะดนตรี แนว Funk , Blues , และ Jazz จากยุค 60’s และก่อนหน้านั้นครับ ขอแทรกเกร็ดนิดนึงว่าก่อนยุค 70’s เนี่ย มีบางวงที่เรียกได้ว่าเป็นตัวอย่างต้นแบบของการร้องแร็ปที่เก่าแก่ที่สุด เช่นเพลง “noah” ของกลุ่มนักขับร้องกอสเปล คณะ “The Jubalaires” ในปี 1946 และ เพลง Here Comes the Judge” ของ Pigmeat Markham ในปี 1968
ในสมัยนั้นเนี่ย เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมดนตรี ยังไม่ค่อยพัฒนา เท่าที่ควร เราจึงเห็นว่าจะเน้นไปที่การขับร้องประสานเสียง สัมผัสคล้องจองซะมากกว่า Hiphop เป็น Culture และ Music Genre ที่เราได้เห็นจนทุกวันนี้ มันก่อตัวขึ้น ในทศวรรษที่ 1970 ในย่าน บร๊องซ์ นครนิวยอร์กเป็น culture ที่แสดงถึงความขบถต่อสิ่งที่มีเเละเป็นอยู่ในสมัยนั้น ทั้งสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม ความเลื่อมล้ำหรือแม้กระทั้งแรงโน้มถ่วงถูกหลอมรวมจากหลายวัฒนธรรมหลายเชื้อสาย หลากหลายพื้นที่โดยตัวตั้งตัวตี ที่เห็นได้ชัดๆ ก็คงหนีพ้นประเพณีของ ชาวแอฟริกันอเมริกัน, แองโกลแคริบเบียน , ลาตินอเมริกัน ทั้งหมดนี้จะเป็นวัยรุ่นเยาวชนผู้ด้อยโอกาสทางสังคมและชนชั้นล่างที่มีรายได้ต่ำ อัตคัดขัดสน พวกเขาใช้ดนตรีแนวนี้เป็นกระบอกเสียงทางการเมือง เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชีวิตความเป็นอยู่ ของพวกเขาช่วงบุกเบิกฮิปฮอปในยุคดังกล่าวนั้นได้เกิด Street Culture หนึ่งที่เรียกว่า “Block Paties” คือการเอาเครื่องเล่นเเผ่นเสียงมาตั้งที่หัวมุมถนน เเล้วก็เล่นกันตรงนั้นๆเลย วัยรุ่นในชุมชนก็จะรวมตัวพบปะ เต้นรำ เเร็พโจ้วกัน ก่อเกิดเป็นแก๊งค์เป็นกลุ่มเป็นก้อน แบ่งพักพวก Clan ใคร Clan มันเพลงที่ใช้เปิดในสมัยนั้นก็จะเป็นเพลงฮิตๆ แต่วิธีการเล่นก็จะไม่ใช่การเล่นเเผ่นเสียงธรรมดาแต่เป็นใช้มือ Break หรือ หยุดเเผ่นเสียงนั้นๆ ให้เกิดจังหวะใหม่ๆขึ้น การถูสแครชให้เสียง noise ต่างๆ ให้เป็นจังหวะ หรือแม้กระทั้ง การเอาเพลงนั้นๆที่เพลย์อยู่มาลดสปีดให้ช้าลงเพื่อให้เกิด Tempo ใหม่ๆขึ้นมาซึ่งเพลงดังๆในยุคนั้นก็คงหนีไม่พ้นแนว Funk หรือแนว Soul และตัวพ่อของแนวนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ ป๋า “เจมส์ บราวน์” นั่นเองครับในสมัยนั้น วัฒนธรรมในแบบนี้ได้รับความนิยมในเฉพาะๆกลุ่มใหญ่พอสมควร แต่ก็ยังไม่มีผลงานการบันทึกแบบเป็นจริงเป็นจัง เพราะสภาพความเป็นอยู่และสถานะทางการเงิน DJ ผู้บุกเบิกวัฒธรรมเล่านี้ที่บันทึกไว้
ก็เช่น DJ Kool Herc , Grandmaster Flash , DJ Disco Wiz , Afrika Bambaataa, DJ Hollywood
ในปี 1977 เกิดเหตุไฟดับครั้งใหญ่ในเมืองนิวยอร์ก ได้เกิดการจลาจลขึ้นในเมือง พวกบรรดาแก็งสเตอร์ทั้งหลาย ก็ได้พากันเข้าไปขโมยอุปกรณ์ทำเพลงเครื่องบันทึกเสียง Drum machine และ Turntable ด้วยความที่ยากจนขัดสน เพราะเขาไม่มีเงินพอที่จะซื้อมัน
ต่อมาในปี 1978 ดนตรีแนว Breakbeat ได้ถูกกำเนิดขึ้นจาก DJ Herc เจ้าเก่า โดยการที่เอา Sample เสียงกลองในเพลง Funk ต่างๆในสมัยนั้นมาเล่นต่อกัน จากเครื่องเทิร์นเทเบิลสองเครื่อง สลับไปมาด้วยมิกเซอร์ เหตุผลที่เขาทำแบบนี้เพราะท่อนที่เป็นจังหวะสนุกๆแต่ไม่มีเนื้อร้องเนี่ย มันสั้น เขาเลยเอามาต่อกันเป็นลูปเพื่อให้เต้นรำได้ทั้งคืน แล้วเขาก็จะเรียกบรรรดานักเต้นเท้าไฟพวกนี้ ว่า Break-Boy และ Break-Girl (B.Boy B.Girl)นั้นแหละครับ อีกสิ่งที่เป็นปัจจัยหลักของดนตรีแนวนี้ก็คืออออ MC นั่นแหละจ้าาา ตำแหน่งนี้ จะคอยพูดระหว่างเพลงเพื่อกระตุ้นบิ้วด์ ปลุกเร้าด์คนดูผู้ฟัง อารมณ์พิธีกรในงาน แต่ด้วยการเล่นคำ ติดตลก คล้องจอง เข้าจังหวะล้อไปกับเพลงในช่วงเริ่มต้น ต่อมันได้กลายเป็น การ แร็ปโย่วว โฟลวววไปกับเพลง โดยอิทธิของคนผิวดำที่มีการเเสดงออกเพื่อเอาชนะกันด้วยคิดค้นภาษาของตน แร็พโอ้อ้วด เหยียดหยาด อีกฝ่าย โยนกันไปกันมา ลักษณะก็คล้าย เพลง ลำตัด เพลงฉ่อย ในบ้านเรา การเเร็ปแบบนี้โคตรเป็นที่นิยมทั้งคนเล่นเเละคนฟังเป็นอย่างมาก
ต่อมาในยุคต้น 80’s ดนตรีฮ็อปก็เริ่มเข้ามามีอิทธิผลต่อกระแสหลักของยุค รุ่งเรืองกันอย่างที่เราเห็นกัน ซึ่งยุคนี้เรียกกันว่า Old School – New School มันเป็นแนวย่อยของ Hiphop ที่แตกต่างกัน ขออธิบายเรื่อง Old School – New School ก่อน Hiphop เนี่ยมีแยกย่อยไปหลายแนวมากแต่หลักๆที่ดูขัดแย้งกันแบบชัดๆคือ Old School กับ New School นี่แหละ มันเปรียบเสมือนขั้วตรงข้ามเลยโอลด์สกูลเนี่ย ดนตรีมันจะธรรมดาทั่วไปที่พัฒนามาจาก Break ที่เราเล่าไปก่อนนี้ เนื้อหาก็พูดถึงชีวิต เชื้อชาติ อยากจน เสรีภาพต่างๆนาๆแบบเรียลๆส่วนนิวสกูลเนี่ย ส่วนมากจะพูดถึง
Sex Drug ผู้หญิง ปาร์ตี้ ความร่ำรวย ชีวิตหรูหราไอโซ ดนตรีที่ใข้ก็จะหนัก ไปทาง Groove เป็นหลักๆ โดดเด่น ในทุกเครื่องดนตรี ถือว่ามีกูต้งทำอ่ะ ศิลปินในยุคนั้นมีมากมาย เช่น
– The Grandmaster Flash and The Furious Five
– Slick Rick
– Public Enemy
– Eric B. & Rakim
– Big Daddy Kane
– LL Cool J
– N.W.A.
– RunDMC
– Audio TWO
– Ice-T
– MC Shan
– Beastie Boys
– Herbie Hancock
– The Sugarhill Gang และอีกเพียบบบบบบ
ปีทองปีพีคที่สุดได้เดือนมาถึงในยุค90’s นี่คือยุคที่รุ่งเรืองที่สุด Hiphopขึ้นแท่นเป็นดนตรีกระเเสของโลกแผร่กระจายกลายเป็นวัฒนธรรม ที่มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นทั่วโลก แม้กระทั่งในบ้านเราอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ คือวัฒนธรรม พ่นสีสเปรย์ ข้างกำเเพง อย่าง Grafity พ้นเเท็กไลน์แก๊งใครแก็งมัน และลามไปถึง สงครามการนองเลือดระหว่างแก๊งค์ ว่ากันมาถึงตรงนี้ ทุกคนน่าจะนึกถึงเหตุการณ์นองเลือดครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติของวงการฮิปฮอป แต่ก่อนจะไปเข้าเรื่องนั้น เรามาดูว่าศิลปินในยุคนี้มีใครกันบ้าง
– Cypress Hill
– Snoop Dogg
– Ice Cube
– Tupac Shakur
– Notorious B.I.G.
– Puff Daddy
– Black Sheep
– Dr.Dre
– Eazy-E
– OutKast
– Jay-Z
– Leaders of New School
– Wu-Tang Clan
– Diamond D
– Nas
– Digital Underground
หรือแท้กระทั่งEminem ที่เรารู้จักกันดีก็ เดบิวท์ช่วงไปยุคนี้และอีกเพียบบบบบ
โอเค ต่อเรื่องสงครามระหว่างแก๊งค์ hiphopใน อเมริกาเนี่ย ถูกแยกออกเป็นสองฝากฝั่ง คือ East Coast (ฝั่งตะวันออก) และ West Coast(ฝั่งตะวันตก) จริงๆมีทางใต้ด้วย (Dirty South)ซึ่งแต่ละฝั่งเนี่ย ซาวด์ดนตรีก็จะไม่เหมือนกันทั้งสไตล์การแร๊พเเละแนวทางของBeatฝั่ง East Coast เนี่ยจะเน้นไปทางดั่งเดิมตั้งแต่ก่อตั้ง Old School ประมานนั้น ส่วนฝั่ง West Coast ก็จะประมาน เทคโนฮิปฮอป อวกาศๆหน่อย ผสมผสานเครื่องดนตรีอิเล็คทรอนิค มี Beat Machine เป็นเครื่องให้จังหวะประมานว่า New School ระหว่างสองแก๊งค์นี้ จะมีเพื่อนรักเพื่อนซี้อยู่คู่นึง นั่นคือ Tupac และ Notorious B.I.G. ซึ่งเรียกง่ายๆว่าเป็น Childhood กัน แต่ภายหลัง สัมพันธ์จองพวกเขาได้เปลี่ยนไป เป็นคู่หมานงานหมาง และ จุดจบของเรื่องนี้ ก็ทำให้เกิดงานหมางของ East coast และ West Coast โดยสมบูรณ์แบบ ถึงแม้ Snoop Dogg พยายามที่จะออกยุติงานหมางครั้งนี้ก็ตาม(เรื่องราวของการนองเลือดครั้งนี้มันยาวมาก ไปลองหาอ่านหาชมกันดูครับ)
กระแส Hiphop ได้รับความนิยมจนถึงช่วงปี 2000’s ต้นๆ และซาลงไปพร้อมกันกับยุค Nu Metal ในช่วงกลางทศวรรษ ปี 2000’s ก่อนที่จะมีดนตรีซีนอื่นๆ เข้ามาเป็นกระแสหลักแทนที่ และวนลูปกลับมาเป็นกระเเสหลักอีกครั้ง ในช่วงปี 2016 – จนถึงปัจจุบันและปฏิเสธไม่ว่าทั่วโลกคงไม่รู้จักศิลปินอย่าง
– Kanye West
– Drake
– Kendrick Lamar
– Travis Scott
– Mac Miller
– Post Malone
– Nicki Minaj
– Childish Gambino
– J. Cole
– Lil Nas X
– Black Eyed peas
– Machine Gun Kelly
– Cardi B
– Wiz Khalifa
– Flo Rida
– Pharrell Williams
– Akon
– B.o.B.
หรือ ค่ายเพลงที่มีอิทธิพลที่สุดในยุคนี้ อย่าง 88 rising และอีกเป็นร้อยๆศิลปินที่ยังขับเคลื่อนวงการนี้อยู่ ถ้าใครที่สนใจ หรืออยากจะศึกษาเพิ่มเติม ลองไปหา Documentary ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของ Hiphop อยู่หลายตัวเลยครับเช่น
– Hiphop Evolution ทาง Netflix
– Style War
– Hiphop : Beyond Beats and Rhymes
– Planet Rock : The Story of Hiphop
– and the Crack Generation
– The Show
– 40 years Of Hiphop
– The Art of 16 Bars
– Beef
เป็นต้นนั่นหละฮะ ดนตรีที่เรียกว่า ฮิปฮอปใครชอบวงไหน ศิลปินท่านได้ที่นอกเหนือจากนี้ คอมเม้นต์คุยกันได้นะครับ ข้อมูลไหนตกหล่น หรือ อยากจะเพิ่มเติมก็ แนะนำในคอมเมนต์ได้เลยครับยังมีอีกหลายเรื่องที่เรายังไม่ได้หยิบยกมาพูดถึงเช่น Autotune มันมายังไง ใครเป็นคนเริ่ม หรือ สไตล์การแร็พมีแบบไหนบ้าง สายฟรีสไตล์ สาย Flow สาย Flip หรือจแร็พแบบรักก้ามัฟฟิน ถ้าขืนพูดหมด ยาวแน่ๆครับ ถ้าชอบก็ติดตามช่องของเราได้นะครับ เดี๋ยวมีเซอร์ไพร์สจ้าาอย่าลืมฝากแชร์ด้วยนะครับ เจอกันใหม่ครั้งหน้าาา โย่วววววว